Crab / ปู
ปู (crab) เป็นสัตว์น้ำ จำพวกสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง เป็นพวกเดียวกับแมลง ไฟลัมอาร์โทรโพดา (Arthropoda) มีลักษณะเด่นคือ "ขาเป็นข้อปล้องและมีจำนวนขาถึง 10 ขา ปูมีชื่อเรียกในภาษาอังกฤษแตกต่างตามชนิดสายพันธุ์ แต่จะลงท้ายด้วย crab มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ที่แตกต่างกันตามชนิดสายพันธุ์ด้วย โดยทั่วไปจะนำหน้าด้วยวงศ์และตามด้วยสปีชีส์ของปูชนิดนั้นๆ หอย
หอยเป็นสัตว์น้ำ จัดอยู่พวกมอลลัสค์ (mollusk) ซึ่งเป็นสัตว์ในไฟลัมมอลลัสกา (mollusca) ซึ่งเป็นไฟลัมเดียวกับปลาหมึก หอยหลายชนิดจัดเป็นสัตว์น้ำที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ เนื้อของหอยหลายชนิดมีรสอร่อยเป็นที่นิยมของนักบริโภค นิยมนำมาปรุงเป็นอาหาร และใช้เป็นวัตถุดิบเพื่อการแปรรูป (food processing) เป็นผลิตภัณฑ์ชนิดต่างๆ เช่น การทำแห้ง (dehydration) การแช่เยือกแข็ง (freezing) การบรรจุกระป๋อง (canning) เป็นต้น · หอยฝาเดียว (snail) เช่น หอยหวาน หอยขม · หอยสองฝา มีเปลือกหุ้มตัวแบ่งออกเป็นสองซีก บริเวณที่ยึดตึดกันมีลักษณะคล้ายบานพับสามารถทำหน้าที่เปิดปิดฝาได้โดยฉับพลันทั้งที่อาศัยอยู่ในน้ำจืดและน้ำเค็ม เช่น หอยแครง หอยลายหอยแมลงภู่ หอยนางรมหอยเชลล์ หอยเป๋าฮื้อหอยเชลล์ ปลาหมึก
ปลาหมึก หรือ หมึก คือ สัตว์น้ำเค็มที่ไม่มีกระดูกสันหลัง จัดอยู่พวกมอลลัส (molluscs) ซึ่งเป็นสัตว์ในไฟลัมมอลลัสกา (mollusca) ซึ่งเป็นไฟลัมเดียวกับหอย ปลาหมึกเป็นสัตว์ ที่มีวิวัฒนาการมากที่สุดในไฟลัมนี้ เป็นอาหารทะเล (seafood) ที่นิยมบริโภคทั่วไป ประเภทของหมึก 1. หมึกกระดอง (Cuttlefish, Rainbow Cuttlefish) ชื่อวิทยาศาสตร์ Sepia brevimana, Sepia pharaonis ลักษณะทั่วไปของหมึกกระดอง หมึกกระดองมีลำตัวเป็นถุงรูปไข่ มีแผ่นกล้ามเนื้อคลุมลำตัวคือ ครีบ เป็นอวัยวะที่ใช้ในการพยุงตัว ทำให้เคลื่อนไหวในน้ำได้อย่างรวดเร็ว ลำตัวเป็นกล้ามเนื้อมีลักษณะเป็นแผ่นเนื้อหนาหุ้มห่ออวัยวะภายใน กระดองรูปคล้ายใบหอกที่ เรียกว่า ลิ้นทะเล หัวมีนัยน์ตาขนาดใหญ่ มีหนวดสั้น 4 คู่ และหนวดยาว 1คู่ ปลายของหนวดแต่ละเส้นมีอวัยวะดูดใช้ในการจับอาหาร ถิ่นอาศัย หากินอยู่ในบริเวณผิวน้ำในเวลากลางคืน พบทั่วไปในอ่าวไทยและทะเลอันดามัน 2. หมึกหอม / หมึกตะเภา (Soft Cuttlefish) ชื่อวิทยาศาสตร์ : Sepioteuthis lessoniana ลำตัวเป็นรูปทรงกระบอก ครีบหรือแผ่นข้างตัวทั้งสองด้าน มีลักษณะกว้างและแบน ยาวเกือบตลอดลำตัวคล้ายมึงกระดอง ต่างกันที่กระดองของหมึกหอมจะเป็นแผ่นใสดูบาง เห็นเส้นกระดองได้ชัดเจน หนวดรอบปากมี 10 เส้น เป็นแขน 8 เส้น มีหนวดคู่ยาว 2 เส้น ลำตัวใส มีสีน้ำตาลอมแดง ประเป็นจุด นัยน์ตาสีเขียว ตัวผู้จะมีขนาดยาวและเรียวกว่าตัวเมีย ถิ่นอาศัย รวมกลุ่มอยู่เป็นหมู่ ทั้งในบริเวณผิวน้ำยังถึงพื้นทะเล 3.หมึกยักษ์หรือหมึกสาย (Octopus) ชื่อวิทยาศาสตร์ Octopus membranaceous ลักษณะทั่วไปของหมึกสาย หมึกชนิดนี้มีรูปร่างผิดกับหมึกชนิดอื่น คือ ลำตัวกลมคล้ายลูกโป่ง ไม่มีครีบ ไม่มีกระดอง มีหนวด 8 เส้น แต่ละเส้นมีความยาวใกล้เคียงกันโคนหนวดแต่ละเส้นมีแผ่นหนังเชื่อมติดกัน ด้านในของหนวดทุกเส้นมีปุ่มดูดเรียงกันเป็นสองแถวสำหรับจับสัตว์กินเป็นอาหาร ลำตัวสีเทาอมดำหรือสีน้ำตาลอ่อน ด้านท้องสีขาว หมึกสายเป็นสัตว์ที่เคลื่อนไวค่อนข้างช้า ถิ่นอาศัย ซ่อนตัวอยู่ตามพื้นที่เป็นโคลนหรือโคลนปนทราย พบตามชายฝั่งทะเลทั่วไป ปลาหมึกกล้วย (Squid / Splendid Squid) ชื่อวิทยาศาสตร์ : Loligo spp. Loligo formosana ลักษณะทั่วไปของหมึกกล้วย รูปร่างยาวเรียว ลำตัวกลม ครีบเป็นรูปสามเหลี่ยมอยู่ทางด้านซ้าย มีหนวดสั้น 4 คู่ และหนวดยาว 1 คู่ ปุ่มดูดที่อยู่บนหนวดเปลี่ยนรูปเป็นขนสั้นๆ เพื่อใช้ในการสืบพันธุ์ ถิ่นอาศัย หากินอยู่ในบริเวณผิวน้ำในเวลากลางคืน พบทั่วไปในอ่าวไทยและเวลากลางวันจะรบอยู่ตามหน้าดิน ที่มา: http://www.acfs.go.th/datakm/standard/download/plameuk.pdf |
เนื้อสัตว์ (meat) หมายถึง เนื้อจากสัตว์ต่างๆ ประเภทของสัตว์ที่ใช้เนื้อเพื่อบริโภค ได้แก่ เนื้อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น เนื้อหมูเนื้อวัว เนื้อแพะ เนื้อแกะ เนื้อควาย เนื้อสัตว์ปีก เช่น ไก่ เป็ด ห่าน นกทุกประเภท สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ เช่น จระเข้ กบ เต่า ตะพาบ และอื่นๆ เนื้อสัตว์ที่นำมาใช้บริโภคส่วนใหญ่ได้จากการปศุสัตว์ ผ่านการฆ่าจากโรงฆ่าสัตว์ และนำมาชำแหละเป็นชิ้นส่วนเพื่อแบ่งจำหน่าย และสะดวกในการนำมาบริโภค
beef หมายถึง เนื้อสัตว์ (meat) ที่ได้จากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมประเภท cattle ได้แก่ เนื้อจากวัว หรือ ควาย ส่วนของเนื้อวัวแบ่งตามความนุ่ม ประเภทที่ 1 ประเภทเนื้อนุ่มมากที่สุด ได้มาจากส่วนหลังของวัว (center of the back) ได้แก่ พวกริบ (rib) ,serloin, tender loin เป็นเนื้อท่ีเหมาะสำหรับนำไปทอด ย่าง หรืออบ ประเภทที่ 2 เนื้อนุ่มปานกลาง ได้แก่ เนื้อจากบริเวณโคนขาและสะโพก (leg or round or rump) และเนื้อจากบริเวณหัวไหล่ (chuck or shoulder) เป็นเนื้อที่เหมาะสำหรับนำไป ต้ม ตุ๋น และทำเนื้อบด ประเภทที่ 3 เนื้อนุ่มน้อยที่สุด ได้แก่ เนื้อจากบริเวณตอนกลางลำตัวด้านท้อง (flank) ด้านอก (breast or short plate) ส่วนต้นขาด้านหน้า (brisket) ส่วนต้นขาหน้า (shank) และส่วนคอ (neck) เป็นเนื้อที่เหมาะสำหรับนำไป ตุ๋น ทำสตู และเนื้อบด · เกรดคุณภาพของซากเนื้อวัว ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเนื้อสัตว์ ไส้กรอก (sausage)แฮม (ham)แหนม ลูกชิ้น เบคอน Lamb หมายถึง เนื้อ (meat) ที่ได้จากลูกแกะอายุน้อยกว่า 1 ปี หากเป็นเนื้อแกะโตเต็มวัยจะเรียกว่า mutton
Goat meat / เนื้อแพะ เนื้อแพะ (goat meat) หมายถึง เนื้อ (meat) จากแพะในสกุลคาปรา (Capra spp.) ชนิดที่เลี้ยงเพื่อใช้เป็นอาหารมนุษย์ ได้จากแพะที่มีสุขภาพดี และไม่มีโรคที่ผ่านกระบวนการฆ่าแบบไม่ทรมาน โดยนำเลือด หนัง หัว หาง ข้อเท้าหน้า ข้อเท้าหลังรวมทั้งอวัยวะภายในออก แล้วตัดแต่ง (cutting) เป็นชิ้นส่วนขนาดใหญ่ โดยผ่านการตรวจสอบแล้วว่าสามารถบริโภคเป็นอาหารได้ และมีกล้ามเนื้อโครงร่าง (skeletal muscle) เป็นส่วนใหญ่ เนื้อแพะตามมาตรฐานแบ่งเป็น 8 ประเภท ดังนี้ · สันสะเอว (loins) เป็นชิ้นส่วนซึ่งได้จากการตัดผ่านกระดูกสันหลัง ตรงกระดูกซี่โครงซี่ที่ 12 และ 13 จนถึงกระดูกสันหลังข้อสุดท้ายที่ต่อกับส่วนสะโพก (chump) · ขาหลัง (hind leg) เป็นชิ้นส่วนซึ่งได้จากการตัดขวางตั้งฉากกับแนวยาวของกระดูกขาหลังตรงกระดูก ใต้กระเบนเหน็บ (sacrum) ต่อกระดูกหาง โดยมีส่วนหัวกระดูกขาหลัง (femur) ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2.5 เซนติเมตร ติดอยู่ด้วย · สะโพก (chump) เป็นชิ้นส่วนซึ่งได้จากการตัดผ่านกระดูกสันหลังส่วนเอวข้อสุดท้าย · สันซี่โครง (rack) เป็นชิ้นส่วนซึ่งได้จากการตัดตามยาวผ่านกระดูกสันหลังระหว่างซี่โครงซี่ที่ 3และ 4 ถึงซี่โครงซี่ที่ 12 โดยตัดแยกส่วนอกออก · ไหล่ (shoulder) เป็นชิ้นส่วนซึ่งได้จากการตัดตามยาวจากบริเวณส่วนคอต่อกับกระดูกสันหลัง ถึงกระดูกซี่โครงซี่ที่ · ขาหน้า (fore leg) เป็นชิ้นส่วนซึ่งได้จากการตัดขาหน้าที่ติดกระดูกใบพายแยกจากส่วนไหล่ · อก (breast) เป็นชิ้นส่วนของเนื้อส่วนพื้นท้องซึ่งได้จากการตัดตามขวางกระดูกซี่โครงให้ขนานกับกระดูกสันหลัง กว้างประมาณ 1 ใน 3 · คอ (neck) เป็นชิ้นส่วนของเนื้อซึ่งได้จากการตัดผ่านกระดูกส่วนคอต่อกับกระดูกสันหลัง การบรรจุและเก็บรักษา เนื้อแพะที่เป็นชิ้นส่วนขนาดใหญ่ ต้องหุ้มห่อด้วยวัสดุที่ปิดมิดชิดที่มีสมบัติตามประกาศ กระทรวงสาธารณสุขฉบับที่เกี่ยวกับภาชนะบรรจุ ซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2532 เพื่อป้องกันการปนเปื้อนและกลิ่นแปลกปลอมจากภายนอก เนื้อแพะที่บรรจุในภาชนะบรรจุแล้ว ต้องเก็บรักษาไว้ในที่อุณหภูมิต่ำ ใจกลางเนื้อไม่สูงกว่า 4 องศาเซลเซียส โดยให้เก็บรักษาได้ไม่เกิน 7 วัน แต่ถ้าอุณหภูมิที่ ใจกลางเนื้อเกินกว่า 4 องศาเซลเซียส แต่ไม่เกิน 10 องศาเซลเซียส ให้เก็บรักษาได้ไม่เกิน 24 ชั่วโมง ภาชนะบรรจุต้องมีคุณภาพ สะอาด ถูกสุขลักษณะ และมีสมบัติทนทานต่อการปฏิบัติการขนส่งและรักษาสภาพของเนื้อแพ Reference http://www.acfs.go.th/standard/download/Goat.pdf Shrimp / กุ้ง
กุ้ง (srimp หรือ prawn) เป็นสัตว์น้ำในกลุ่ม crustacean อยู่ในกลุ่มเดียวกับกั้ง และปู มีลักษณะสำคัญ คือมีเปลือกหุ้มตัวเป็นสารกลุ่มไคทิน ลำตัวเป็นปล้อง โดยมีรยางค์ยื่นออกมาเป็นคู่ เช่น หนวด ขากรรไกร ขาเดิน และขาว่ายน้ำ เมื่อเจริญเติบโตจะสลัดเปลือกเดิม สร้างเปลือกใหม่ กุ้งเป็นอาหารทะเลที่มีเนื้ออร่อย รับประทานกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก ลักษณะที่ต้องการของกุ้งสด คือ มี รูปร่างปกติและมีอวัยวะครบ มีสีตามธรรมชาติ ส่วนหัวและลำตัวติดแน่น เปลือกสดใส ลื่น เป็นเงามันตามธรรมชาติ เนื้อแน่น ใสติดกับเปลือกแน่น แกะออกจากเปลือกยาก พันธุ์กุ้ง พันธุ์กุ้งที่นิยมบริโภค ได้แก่ · กุ้งกุลาดำ · กุ้งก้ามกราม · กุ้งขาว การเปลี่ยนแปลงระหว่างการเก็บรักษากุ้งสด กุ้งสด (fresh shrimp) หมายถึง กุ้งมีชีวิต หรือกุ้งที่จับได้ขณะยังมีชีวิต นำมาล้างทำความสะอาดและทำให้เย็นทันที โดยใช้น้ำแข็งผสมเกลือเพื่อรักษาความสด ระหว่างการเก็บรักษากุ้งสดมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ลักษณะทั่วไป กุ้งสด กุ้งไม่สด ลำตั;และเปลือก รูปร่างปกติและมีอวัยวะครบมีสีตามธรรมชาติ สดใส ลื่น เป็นเงามันตามธรรมชาติ อวัยวะ เริ่มหักหาย เปลือกเริ่มด้านจน ลำตัวมีสีซีด หัว ส่วนหัวและลำตัวติดแน่นเนื้อเยื่อบริเวณคอ ติดอยู่ไม่ฉีกขาด ส่วนต่อระหว่างหัว กับลำตัวเริ่มไม่แน่น เนื้อเยื่อส่วนต่อระหว่างหัว กับลำตัวฉีกขาดเกือบหรือทั้งหมด (หัวคลอน) จนถึงเกือบหลุดออกจากกัน เนื้อ ติดกับเปลือกแน่นแกะเปลือกยากเนื้อแน่น ใส เนื้อติดเปลือกไม่แน่น เนื้อนิ่ม ขาวขุ่นมาก มีกลิ่นปกติตามธรรมชาติของกุ้งสด ไม่พบกลิ่นผิดปกติใดๆ กลิ่นปกติตามธรรมชาติของกุ้งเริ่มจางหายไปจนกระทั่งไม่มีกลิ่น เริ่มมีกลิ่นคาว มีกลิ่นผิดปกติ หรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ เช่น กลิ่นคาวจัด กลิ่นเปรี้ยว การเปลี่ยนแปลงของกุ้งระหว่างการหุงต้ม เมื่อมีชีวิตกุ้ง และ crustacean อาจมีสีเขียวปนน้ำตาล น้ำตาลปนแดง ชมพูหรือเทาปนดำ แต่เมื่อผ่านความร้อน ด้วยการต้มนึ่ง ปิ้ง ย่าง เปลือกจะเปลี่ยนเป็นสีชมพูแดง เพราะที่เปลือกและผิวเนื้อบางส่วนมีสารสีน้ำเงินและแดงอยู่ เมื่อถูกความร้อนสารสีน้ำเงินจะถูกทำลาย ส่วนสารสีแดงยังคงอยู่ เพราะทนความร้อนได้ดี อาหารและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากกุ้ง · กุ้งแช่เยือกแข็ง (ดู อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง) · ขนมจีบ · กุนเชียงทะเล · กะปิ · กุ้งแห้ง · กุ้งปรุงรส · กุ้งจ่อม · กุ้งอบวุ้นเส้น กุ้งจัดเป็นอาหารก่อภูมิแพ้ (food allergen) อาหาร หรือผลิตภัณฑ์อาหารที่มีกุ้งเป็นส่วนประกอบ จะต้องระบุในฉลากอาหาร (food labelling) References http://www.acfs.go.th/standard/download/kungkamkram.pdf http://www.acfs.go.th/standard/download/std_white_shrim_wannamite.pdf http://www.acfs.go.th/standard/download/std_kungkuladam.pdf ปลาหมึก
ปลาหมึก หรือ หมึก คือ สัตว์น้ำเค็มที่ไม่มีกระดูกสันหลัง จัดอยู่พวกมอลลัส (molluscs) ซึ่งเป็นสัตว์ในไฟลัมมอลลัสกา (mollusca) ซึ่งเป็นไฟลัมเดียวกับหอย ปลาหมึกเป็นสัตว์ ที่มีวิวัฒนาการมากที่สุดในไฟลัมนี้ เป็นอาหารทะเล (seafood) ที่นิยมบริโภคทั่วไป ประเภทของหมึก 1. หมึกกระดอง (Cuttlefish, Rainbow Cuttlefish) ชื่อวิทยาศาสตร์ Sepia brevimana, Sepia pharaonis ลักษณะทั่วไปของหมึกกระดอง หมึกกระดองมีลำตัวเป็นถุงรูปไข่ มีแผ่นกล้ามเนื้อคลุมลำตัวคือ ครีบ เป็นอวัยวะที่ใช้ในการพยุงตัว ทำให้เคลื่อนไหวในน้ำได้อย่างรวดเร็ว ลำตัวเป็นกล้ามเนื้อมีลักษณะเป็นแผ่นเนื้อหนาหุ้มห่ออวัยวะภายใน กระดองรูปคล้ายใบหอกที่ เรียกว่า ลิ้นทะเล หัวมีนัยน์ตาขนาดใหญ่ มีหนวดสั้น 4 คู่ และหนวดยาว 1คู่ ปลายของหนวดแต่ละเส้นมีอวัยวะดูดใช้ในการจับอาหาร ถิ่นอาศัย หากินอยู่ในบริเวณผิวน้ำในเวลากลางคืน พบทั่วไปในอ่าวไทยและทะเลอันดามัน 2. หมึกหอม / หมึกตะเภา (Soft Cuttlefish) ชื่อวิทยาศาสตร์ : Sepioteuthis lessoniana ลำตัวเป็นรูปทรงกระบอก ครีบหรือแผ่นข้างตัวทั้งสองด้าน มีลักษณะกว้างและแบน ยาวเกือบตลอดลำตัวคล้ายมึงกระดอง ต่างกันที่กระดองของหมึกหอมจะเป็นแผ่นใสดูบาง เห็นเส้นกระดองได้ชัดเจน หนวดรอบปากมี 10 เส้น เป็นแขน 8 เส้น มีหนวดคู่ยาว 2 เส้น ลำตัวใส มีสีน้ำตาลอมแดง ประเป็นจุด นัยน์ตาสีเขียว ตัวผู้จะมีขนาดยาวและเรียวกว่าตัวเมีย ถิ่นอาศัย รวมกลุ่มอยู่เป็นหมู่ ทั้งในบริเวณผิวน้ำยังถึงพื้นทะเล 3.หมึกยักษ์หรือหมึกสาย (Octopus) ชื่อวิทยาศาสตร์ Octopus membranaceous ลักษณะทั่วไปของหมึกสาย หมึกชนิดนี้มีรูปร่างผิดกับหมึกชนิดอื่น คือ ลำตัวกลมคล้ายลูกโป่ง ไม่มีครีบ ไม่มีกระดอง มีหนวด 8 เส้น แต่ละเส้นมีความยาวใกล้เคียงกันโคนหนวดแต่ละเส้นมีแผ่นหนังเชื่อมติดกัน ด้านในของหนวดทุกเส้นมีปุ่มดูดเรียงกันเป็นสองแถวสำหรับจับสัตว์กินเป็นอาหาร ลำตัวสีเทาอมดำหรือสีน้ำตาลอ่อน ด้านท้องสีขาว หมึกสายเป็นสัตว์ที่เคลื่อนไวค่อนข้างช้า ถิ่นอาศัย ซ่อนตัวอยู่ตามพื้นที่เป็นโคลนหรือโคลนปนทราย พบตามชายฝั่งทะเลทั่วไป ปลาหมึกกล้วย (Squid / Splendid Squid) ชื่อวิทยาศาสตร์ : Loligo spp. Loligo formosana ลักษณะทั่วไปของหมึกกล้วย รูปร่างยาวเรียว ลำตัวกลม ครีบเป็นรูปสามเหลี่ยมอยู่ทางด้านซ้าย มีหนวดสั้น 4 คู่ และหนวดยาว 1 คู่ ปุ่มดูดที่อยู่บนหนวดเปลี่ยนรูปเป็นขนสั้นๆ เพื่อใช้ในการสืบพันธุ์ ถิ่นอาศัย หากินอยู่ในบริเวณผิวน้ำในเวลากลางคืน พบทั่วไปในอ่าวไทยและเวลากลางวันจะรบอยู่ตามหน้าดิน ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากหมึก 1. บรรจุกระป๋อง (canning) 2.แช่เยือกแข็ง (freezing) 3.ปลาหมึกแห้ง (dehydration) 4.ปลาหมึกทอด (frying) ปลาหมึกสดแต่ละชนิดมี 8 แบบ ได้แก่ · ปลาหมึกทั้งตัว (whole round) ได้แก่ ปลาหมึกที่มีอวัยวะครบตามธรรมชาติ · ปลาหมึกลอกขาว (whole cleaned) ได้แก่ ปลาหมึกทั้งตัวที่ลอกหนังเอาส่วนตา ปาก และอวัยวะภายในออกทั้งหมด · ปลาหมึกหลอด (tube) ได้แก่ ปลาหมึกที่ลอกหนัง ชักไส้ เอาหัวและกระดองหรือแผ่นไคทินออกเอาปีกออกหรือไม่ก็ได้ · ปลาหมึกแผ่น (fillet) ได้แก่ ปลาหมึกหลอด เอาปีกออกหรือไม่ก็ได้ ผ่าตามความยาวตลอดลำตัว · หัวปลาหมึก (head) ได้แก่ ส่วนหัวที่มีหนวดของปลาหมึกที่เอาตา ปาก และถุงหมึกออก ทั้งนี้ปลาหมึกวงศ์ โลลิจินิดี และซิปิไอดิ (ปลาหมึกกล้วย ปลาหมึกกระดอง และปลาหมึกหอม) อาจเรียกว่า หนวดปลาหมึก · ปีกปลาหมึก (wing) ได้แก่ อวัยวะส่วนนอก มีลักษณะเป็นแผ่น 2 ข้าง อยู่ติดกับด้านปลายแหลมของตัวปลาหมึก · ปลาหมึกสายเอาถุงหมึกออก (octopus ink off) ได้แก่ ปลาหมึกสายที่เอาเฉพาะถุงหมึกออก · ปลาหมึกสายชักไส้ (octopus gutted) ได้แก่ ปลาหมึกสายที่เอาอวัยวะภายในทั้งหมดออก จะเอาปากและตาออกหรือไม่ก็ได้ ที่มา: http://www.acfs.go.th/datakm/standard/download/plameuk.pdf |