SpiceFrom Wikipedia, the free encyclopedia
For the sensation of eating spicy-hot foods, see pungency. For other uses, see Spice (disambiguation). A group of Indian spices and herbs in bowls An assortment of spices used in Indian cuisine Spice market, Marakesh Spices and herbs at a grocery shop in Goa, India A spice is a dried seed, fruit, root, bark, or vegetable substance primarily used for flavoring, coloring or preserving food. Sometimes a spice is used to hide other flavors.[1] Spices are distinguished from herbs, which are parts of leafy green plants also used for flavoring or as garnish. Many spices have antimicrobial properties. This may explain why spices are more commonly used in warmer climates, which have moreinfectious disease, and why use of spices is especially prominent in meat, which is particularly susceptible to spoiling.[2] A spice may have other uses, including medicinal, religious ritual, cosmetics or perfume production, or as a vegetable. For example,turmeric roots are consumed as a vegetable[citation needed] and garlic as an antibiotic.[3] |
เครื่องเทศนานาชนิด
เครื่องเทศ หมายถึง ส่วนต่างๆ ของพืชเช่น เมล็ด เปลือกเมล็ด ผล ผิวนอกของผล ใบ ราก ลำต้น ฯลฯ ที่ทำให้แห้ง แล้วนำมาเป็นเครื่องปรุงในอาหารเพื่อให้ได้รสชาติ สีสัน กลิ่น หรือคุณสมบัติอื่นๆ ที่ต้องการ ด้วยเหตุนี้เราจึงมีเครื่องเทศเป็นจำนวนมาก เช่น กระวาน กานพลู จันทน์เทศ ดีปลี ยี่หร่า หญ้าฝรั่นมะกรูด พริก พริกไทย อบเชย แม้กระทั่ง งา เครื่องเทศมีปรากฏในหลายวัฒนธรรมมาตั้งแต่ครั้งโบราณ เครื่องเทศของไทยแต่เดิมอาศัยพืชผักที่ปรากฏเฉพาะในท้องถิ่นของเรา แต่เมื่อได้ติดต่อกับต่างชาติ ทำให้เรารับเอาเครื่องเทศจากชาติอื่นมาใช้ด้วย อย่างไรก็ตามในชาติตะวันตก ถือว่าเครื่องเทศเป็นองค์ประกอบสำคัญของอาหาร จึงมีการเดินทางเสาะหาเครื่องเทศจากทั่วโลก ทำให้เกิดการค้าเครื่องเทศขึ้นอย่างจริงจัง และเป็นสาเหตุหนึ่งของการเดินทางสำรวจโลกของชาติตะวันตก นอกจากนี้ยังก่อให้เกิด "เส้นทางสายเครื่องเทศ" ขึ้นอีกด้วย |
Spice / เครื่องเทศ
เครื่องเทศ (spice) หมายถึง ของหอมฉุนและเผ็ดร้อนที่ได้มาจากพืช ใช้เพื่อปรุงอาหาร ให้สี กลิ่น รส (flavoring agent)
ในอาหาร ดับคาว จากเนื้อสัตว์ เครื่องเทศบางชนิดมีสรรพคุณเป็นยา จึงอาจเรียกรวมว่า เครื่องเทศ สมุนไพร เครื่องเทศ
มีน้ำมันหอมระเหย (essential oil) เครื่องเทศบางชนิดมีฤทธ์เป็นสารต้านออกซิเดชัน (antioxidant) มีฤทธิ์เป็นสารกันเสีย
(preservative)
เครื่องเทศที่ใช้ในอาหาร มาจากส่วนต่างๆ ของพืช เช่น ผล ราก ใบ เปลือก เมล็ด ดอก หัว เครื่องเทศมักผ่านการทำแห้ง
(dehydration) มีความชื้น (moisture content) และวอเตอร์แอคทิวิตี้ (water activity) ต่ำ เพื่อให้มีอายุการเก็บรักษาได้
นานขึ้น อาจอยู่ในรูปของผงป่น หรือสกัดในรูปของ โอลิโอเรซิน (oleoresin) เพื่อสะดวกในการใช้งาน
ส่วนต่างๆ ของพืชที่ใช้เป็นเครื่องเทศ
ที่มา http://www.fao.org/docrep/010/ai407e/AI407E07.htm
ส่วนของพืชเครื่องเทศเครื่องเทศจากราก (root)
ลำต้นใต้ดิน (underground stem)
และ หัว (bulb)
กระชาย
ขมิ้น (turmeric)
ข่า
ข่าเหลือง
ขิง
หอมแดง
หอมหัวใหญ่
กระเทียม
เครื่องเทศจากลำต้นตะไคร้
ต้นหอม
ผักชี
ผักชีลาว
เครื่องเทศจากเปลือกของลำต้น (bark)
อบเชยเครื่องเทศจากใบโหระพา
กะเพรา
Oregano
ใบเบย์ (bay leave)
Marjoram
Thyme
เครื่องเทศจากดอกตูมและดอก ( Flower bud and flower)
กานพลู (clove)
โป๊ยกั๊ก (star anise)
หญ้าฝรั่น (saffron)
เครื่องเทศจากผลและเมล็ดพริก
ปาปริกา (paprika)
กระวาน (cardamom)
พริกไทย (pepper)
จันทน์เทศ (nutmeg)
ยี่หร่า
ลูกผักชี
มัสตาร์ด
ดีปลี
โรสแมรี่
กระวาน (cardamom)
กานพลู (clove)
จันทน์เทศ (nutmeg)
หญ้าฝรั่น (saffron)
ดีปลี
ยี่หร่า
พริกไทย (pepper)อบเชย (cinnamon)มัสตาร์ด (mustard)
โป๊ยกั๊ก (star anise)
ขมิ้น (turmeric)
เคอคิวมิน (curcumin)
ลูกผักชี
ส่วนประกอบของเครื่องเทศ
ประโยชน์ของเครื่องเทศ
บทบาทความสำคัญและประโยชน์ของพืชเครื่องเทศและสมุนไพร
1. ใช้ประกอบอาหาร ใช้เป็นอาหารโดยตรง ใช้ปรุงแต่งสีกลิ่นรสอาหาร
Reference
http://www.spiceadvice.com/encyclopedia/index.html
http://unitproj.library.ucla.edu/biomed/spice/index.cfm?displayID=20
http://www.uni-graz.at/~katzer/engl/spice_index.html
เครื่องเทศ (spice) หมายถึง ของหอมฉุนและเผ็ดร้อนที่ได้มาจากพืช ใช้เพื่อปรุงอาหาร ให้สี กลิ่น รส (flavoring agent)
ในอาหาร ดับคาว จากเนื้อสัตว์ เครื่องเทศบางชนิดมีสรรพคุณเป็นยา จึงอาจเรียกรวมว่า เครื่องเทศ สมุนไพร เครื่องเทศ
มีน้ำมันหอมระเหย (essential oil) เครื่องเทศบางชนิดมีฤทธ์เป็นสารต้านออกซิเดชัน (antioxidant) มีฤทธิ์เป็นสารกันเสีย
(preservative)
เครื่องเทศที่ใช้ในอาหาร มาจากส่วนต่างๆ ของพืช เช่น ผล ราก ใบ เปลือก เมล็ด ดอก หัว เครื่องเทศมักผ่านการทำแห้ง
(dehydration) มีความชื้น (moisture content) และวอเตอร์แอคทิวิตี้ (water activity) ต่ำ เพื่อให้มีอายุการเก็บรักษาได้
นานขึ้น อาจอยู่ในรูปของผงป่น หรือสกัดในรูปของ โอลิโอเรซิน (oleoresin) เพื่อสะดวกในการใช้งาน
ส่วนต่างๆ ของพืชที่ใช้เป็นเครื่องเทศ
ที่มา http://www.fao.org/docrep/010/ai407e/AI407E07.htm
ส่วนของพืชเครื่องเทศเครื่องเทศจากราก (root)
ลำต้นใต้ดิน (underground stem)
และ หัว (bulb)
กระชาย
ขมิ้น (turmeric)
ข่า
ข่าเหลือง
ขิง
หอมแดง
หอมหัวใหญ่
กระเทียม
เครื่องเทศจากลำต้นตะไคร้
ต้นหอม
ผักชี
ผักชีลาว
เครื่องเทศจากเปลือกของลำต้น (bark)
อบเชยเครื่องเทศจากใบโหระพา
กะเพรา
Oregano
ใบเบย์ (bay leave)
Marjoram
Thyme
เครื่องเทศจากดอกตูมและดอก ( Flower bud and flower)
กานพลู (clove)
โป๊ยกั๊ก (star anise)
หญ้าฝรั่น (saffron)
เครื่องเทศจากผลและเมล็ดพริก
ปาปริกา (paprika)
กระวาน (cardamom)
พริกไทย (pepper)
จันทน์เทศ (nutmeg)
ยี่หร่า
ลูกผักชี
มัสตาร์ด
ดีปลี
โรสแมรี่
กระวาน (cardamom)
กานพลู (clove)
จันทน์เทศ (nutmeg)
หญ้าฝรั่น (saffron)
ดีปลี
ยี่หร่า
พริกไทย (pepper)อบเชย (cinnamon)มัสตาร์ด (mustard)
โป๊ยกั๊ก (star anise)
ขมิ้น (turmeric)
เคอคิวมิน (curcumin)
ลูกผักชี
ส่วนประกอบของเครื่องเทศ
ประโยชน์ของเครื่องเทศ
บทบาทความสำคัญและประโยชน์ของพืชเครื่องเทศและสมุนไพร
1. ใช้ประกอบอาหาร ใช้เป็นอาหารโดยตรง ใช้ปรุงแต่งสีกลิ่นรสอาหาร
- วานิลลา ใช้ปรุงแต่งกลิ่นยา ขนม ไอศกรีม
- ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ กานพลู ใช้เป็นส่วนผสมของการตุ๋นเนื้อสัตว์ในแกงต่างๆ เช่น มัสมั่น แกงกะหรี่ เครื่องแกง
- อบเชยและกระวานใช้เป็นส่วนผสมของพะโล้ ขนมคุกกี้ เค้ก เครื่องดื่ม ไส้กรอก เบคอน
- พริกใช้เป็นส่วนผสมของน้ำพริกแกง เช่น น้ำพริกแกงเขียวหวาน น้ำพริกแกงแดง น้ำพริกแกงส้ม
- มัสตาร์ดผง ผลิตเป็นผงกะหรี่
- อบเชย ลูกกระวาน และจันทน์แปดกลีบ ผลิตเป็นเครื่องพะโล้ผงสำเร็จรูป
- ลูกจันทน์ แต่งกลิ่นของขนมพุดดิ้ง ขนมปัง เนย ไส้กรอก แฮม เบคอน
- โป๊ยกั๊ก ใช้ปรุงแต่งกลิ่นพะโล้
- ขมิ้น ใช้แต่งสี กลิ่นรสของอาหารเนื้อสัตว์ ปลา เช่น แกงเหลือง แกงไตปลา
- พริกไทย ปรุงแต่งกลิ่นรสอาหารประเภทผัดหรือแกง
- พริก หอม ผักชี ตะไคร้ สะระแหน่ ปรุงแต่งกลิ่นรสอาหารประเภทยำ
- ผักชีลาว ใช้ในการแต่งกลิ่นในแกงอ่อม (อาหารอีสาน)
- ย่านาง ใช้แต่งสีแกงหน่อไม้
Reference
http://www.spiceadvice.com/encyclopedia/index.html
http://unitproj.library.ucla.edu/biomed/spice/index.cfm?displayID=20
http://www.uni-graz.at/~katzer/engl/spice_index.html